วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

วิปัสสนาตามแนวทางของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า



การปฏิบัติวิปัสสนาตามแนวทางของท่านอาจารย์โกเอ็นก้านั้น ก่อนจะยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาต้องทำสมาธิโดยวิธีอานาปานสติ (ดูลมหายใจเข้าออก) โดยไม่ต้องมีคำบริกรรมใดๆทั้งสิ้น เมื่อทำสมาธิจนจิตแหลมคมดีแล้วจึงยกขึ้นสู่วิปัสสนา โดยดูเวทนา (ความรู้สึก) เริ่มต้นที่ส่วนบนสุดของศีรษะที่บริเวณกระหม่อมแล้วไล่ลงไปตามส่วนต่างๆของร่างกายจนถึงปลายนิ้วเท้า แล้วย้อนกลับจากปลายนิ้วเท้าถึงบริเวณกลางกระหม่อม กลับไปกลับมาอย่างนี้
เวทนาหรือความรู้สึกที่ดูนั้นเป็นการดูด้วยจิตเพราะขณะนั้นต้องนั่งหลับตา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผิวหนังส่วนต่างๆของร่างกายที่ดูนั้น ไม่จำกัดว่าจะเป็นความรู้สึกอะไรจะเป็นรู้สึกเจ็บปวด แน่นตึง ร้อน เย็น คัน สั่น กระตุก หรือความรู้สึกอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ท่านอาจารย์บอกว่าความรู้สึกถ้าเป็นเจ็บปวด แน่นตึง อันนั้นคือการกำจัดกิเลสตัวที่เป็นโทสะ แต่ถ้าเย็นเบาสบายเป็นการกำจัดกิเลสตัวที่เป็นโลภะ ปฏิบัติครั้งแรกๆความรู้สึกเจ็บปวดแน่นตึงจะมีมากกว่าความรู้สึกอย่างอื่น เพราะฉะนั้นเข้าใจว่าโทสะเป็นกิเลสตัวที่กำจัดง่ายกว่ากิเลสตัวอื่น เมื่อได้เข้าปฏิบัติหลายๆครั้งอาการเจ็บปวดแน่นตึงแทบจะไม่เหลืออยู่ แต่ความรู้สึกที่เย็นเบาสบายนั้นจะมีมาแทนที่
ท่านอาจารย์กำชับเป็นนักเป็นหนาว่าเมื่อมีความรู้สึกที่เจ็บปวดแน่นตึงก็จะต้องมีธรรมะตัวที่เรียกว่าอุเบกขามากำกับ คือจะต้องไม่รู้สึกไม่พอใจหรือยินร้าย ในทางกลับกันเมื่อมีความรู้สึกเย็นเบาสบายก็จะต้องไม่รู้สึกพอใจหรือยินดี คือทั้งไม่ยินดีและไม่ยินร้าย เพราะถ้าไม่มีอุเบกขามากำกับจะยิ่งทำให้กิเลสเหล่านั้นพอกพูนยิ่งขึ้น ท่านบอกว่าทั้งสติและอุเบกขามีความสำคัญในการปฏิบัติวิปัสสนาไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
ตอนแรกๆมีความสงสัยว่าทำไมท่านอาจารย์ไม่พูดถึงกิเลสตัวที่เรียกว่า โมหะ ว่าจะกำจัดอย่างไรแต่เมื่อได้ใคร่ครวญดูแล้ว โมหะหรืออวิชชาจะถูกกำจัดเมื่อมีปัญญาหรือวิชชา เปรียบได้กับโมหะหรืออวิชชาเป็นความมืด เมื่อมีปัญญาหรือวิชชาอันเปรียบได้กับแสงสว่างเมื่อไร เมื่อนั้นความมืดหรืออวิชชาก็จะถูกกำจัดได้ จึงสรุปเอาเองว่า ปัญญาหรือวิชชาเป็นผลจากการทำเหตุของเรา ช่วงที่เรายังปฏิบัติวิปัสสนาอยู่นี้เราไม่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงผลว่ามันจะเกิดเมื่อไร ทำเหตุให้ดีที่สุดผลจะเกิดเมื่อไรก็เมื่อนั้น


ถอนคำอธิษฐาน



ตามปกติตอนกลางคืนหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จแล้วก็จะนั่งสมาธิต่อด้วยการทำวิปัสสนา แต่เมื่อก่อนนี้บางวันนั่งสมาธิได้เล็กน้อยก็รู้สึกง่วงไม่ได้ทำวิปัสสนา กิเลสมันแก้ตัวว่าเพราะตอนช่วงเย็นออกกำลังกายหนักไปหน่อย (ออกกำลังกายที่ฟิตเนสประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง) ร่างกายเหน็ดเหนื่อยจึงต้องการพักผ่อน แต่เมื่อออกจากห้องพระก็ไม่ง่วงยังเล่นไลน์ได้ แสดงว่าเจ้านิวรณ์ตัวนี้ (ถีนมิทธะ) เป็นมารขวางกั้นการปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนา
วันหนึ่งพบบทความเรื่องการถอนคำอธิษฐาน จำไม่ได้แล้วว่าในไลน์หรือเฟชบุ๊ก ได้คัดลอกไว้ มีข้อความว่า


คำถอนอธิษฐาน

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

“ถ้าหากในชาติหนึ่งชาติใดจนถึงในชาติปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าได้เคยอธิษฐาน สาบาน ให้คำมั่นสัญญา หรือปรารถนาสิ่งใดๆดังต่อไปนี้ เช่น ข้าพเจ้าเคยปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ คู่บารมีหรือผู้ติดตามร่วมสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า พระเอตทัคคะสาวก ปรารถนาการบรรลุมรรคผลนิพพานเฉพาะต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ปรารถนาการท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสารหรือปรารถนาว่าจะเกิดตามติดกัน จะผูกพันกันกับผู้หนึ่งผู้ใดไปทุกชาติ ด้วยความรักหรือด้วยความอาฆาตแค้นเกลียดชัง หรือปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำให้หลงผิดติดอยู่ในเดรัจฉานวิชชา หรือความปรารถนาอื่นในอกจากนี้ ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี ที่ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ที่จำได้ก็ดี จำไมได้ก็ดี อันเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ข้าพเจ้าสิ้นกิเลสตัณหาบรรลุถึงซึ่งพระนิพพานในปัจจุบันนี้
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐาน ถอดถอนคำอธิษฐาน คำมั่นสัญญา คำสาบานหรือความปรารถนาทั้งหมดเหล่านั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้วยพุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ และความเมตตาอันไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณจากพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระคุณบิดามารดา พระคุณครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ และบุญบารมีของข้าพเจ้าที่ได้ทำมาแล้วทุกภพทุกชาติ จงรวมกันป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย ดลบันดาลให้ถอดถอนคืนหรือลบล้างมิจฉาทิฏฐิ คำอธิษฐาน คำมั่นสัญญา คำสาบาน หรือความปรารถนาเหล่านั้นเสียทั้งหมด และขอให้เกิดสติ สมาธิ ปัญญา เป็นสัมมาทิฏฐิ สิ้นกิเลสทั้งหมดในปัจจุบันนี้เดี๋ยวนี้ด้วยเทอญ.”

เมื่อได้คำถอนอธิษฐานมาแล้วก็ได้ลองปฏิบัติดู โดยหลังจากไหว้พระสวดมนต์แล้วก็ได้ลองว่าตามคำถอนอธิษฐานแล้วสองสามครั้ง ปรากฏว่าหลังจากนั้นเจ้าถีนมิทธะมารบกวนน้อยลง จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ต้องบอกว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่
พยายามจะหาที่มาของคำถอนอธิษฐานนี้ แต่ไม่พบ ส่วนที่พบมีข้อความคล้ายๆกัน เช่น
http://bit.ly/2Mz6o20
และ
https://horoscope.mthai.com/horoscope-highlight/24423.html